คำถาม ... ป่าดงดิบ คืออะไร? แบ่งออกเป็นกี่ชนิด?
เฉลย ...
ป่าดงดิบ (Evergreen Forest) คือ ป่าทึบชนิดไม่พลัดใบ มีความเขียวครึ้มตลอดทั้งปี มีพันธุ์ไม้ที่หลากหลาย มีความชุ่มชื้นตลอดเวลา รวมถึงมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
เมื่อพูดถึงป่าดงดิบ เรามักจะนึกภาพถึงป่าที่มีต้นไม้สูงใหญ่และต้นไม้เล็ก ๆ ขึ้นอยู่ผสมปนเปกันอย่างไม่เป็นระเบียบ มีความสดเขียวทั้งปี มีความชื้นสูง พื้นดินไม่แห้งแล้ง ต้นไม้ใหญ่มีใบเขียวทั้งปีและไม่มีการพลัดใบเนื่องจากเป็นป่าที่มีความชุ่มชื้นสูง มีฝนตกชุก จึงไม่จำเป็นต้องทิ้งใบเพื่อลดการคายน้ำในหน้าแล้ง รวมถึงเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด ทั้งสัตว์กินพืชและสัตว์กินเนื้อ เช่น ช้าง เสือโค่ง เก้ง กวาง ควายป่า หมี วัวกระทิง สมเสร็จ แรด แมวป่า อีเห็น ลิง และนกชนิดต่าง ๆ เป็นต้น
ป่าดิบชื้นเขตร้อน |
ป่าดิงดิบมีกี่ชนิด อะไรบ้าง?
กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แบ่งป่าดงดิบออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้
1. ป่าดิบเมืองร้อน (Tropical evergreen forest) เป็นป่าในเขตมรสุมและมีฝนตกชุก แบ่งย่อยออกได้ 3 ประเภท คือ
- ป่าดงดิบชื้น (Tropical rain forest) เป็นป่าดงดิบที่พบได้มากในประเทศ โดยเฉพาะในภาคใต้และภาคตะวันออก ป่าชนิดนี้มักมีความสูงจากระดับน้ำทะเลไม่เกิน 600 เมตร
- ป่าดงดิบแล้ง (Dry evergreen forest) เป็นป่าดงดิบที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย ทางด้านตะวันตกจะพบมากตามแนวเทือกเขาตะนาวศรีตังแต่จังหวัดชุมพรขึ้นไปจนถึงเทือกเขาถนนธงชัยในภาคเหนือ ส่วนทางฟากตะวันออกพบมากตามแนวเทือกเขาภูพาน ต่อเนื่องไปถึงเทือกเขาบรรทัดและเทือกเขาพนมดงรัก เรื่อยไปจนถึงผืนป่าดงพญาเย็นและทิวเขาเพชรบูรณ์
- ป่าดงดิบเขา (Hill evergreen forest) ป่าประเภทนี้พบได้ทุกภาคของประเทศไทยที่มียอดเขาสูง เป็นผืนป่าที่โอบล้อมยอดเขาเหล่านี้ เช่น ยอดดอยอินทนนท์ ดอยปุย ภูกระดึง เขาใหญ่ และภูชี้ฟ้า เป็นต้น
2. ป่าสน (Coniferous forest) เป็นป่าที่มีต้นสนสองใบและสนสามใบเป็นพันธุ์ไม้หลัก ผสมกับพันธุ์ไม้อื่น ๆ ที่มีความสูงน้อยกว่า ป่าชนิดนี้พบมากในแถบภูกระดึง จังหวัดเลย
3. ป่าพรุ หรือ ป่าบึง (Swamp forest) เป็นป่าดงดิบลักษณะพิเศษ กล่าวคือ เป็นป่าที่ขึ้นอย่างหนาแน่นบนผืนน้ำ หรือบนพื้นที่มีน้ำขังตลอดทั้งปี พบมากในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย ป่าชุ่มน้ำชนิดนี้ยังรวมไปถึงป่าชายเลนด้วย
4. ป่าชายหาด (Beach forest) เป็นป่าดงดิบประเภทที่อยู่ติดกับทะเล โดยมีต้นไม้ขึ้นหนาทึบตามแนวชายฝั่งทะเลที่เป็นทราย กรวด หิน และหน้าผา
ป่าสน |
ป่าชายหาด |
ป่าไม้ นอกจากจะเต็มไปด้วยต้นไม้และสัตว์ป่าแล้ว ยังเป็นแหล่งต้นน้ำที่หล่อเลี้ยงคนทั้งประเทศ รวมถึงเป็นแหล่งชุ่มชื้นที่ช่วยให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล ช่วยเพิ่มอ๊อกซิเจนให้กับโลก และยังเป็นแหล่งสมุนไพรที่มีค่า เราทุกคนต้องช่วยกันอนุรักษ์ป่าไม้เอาไว้ ไม่ตัดไม้ทำลายป่า วันใดที่ป่าหมดเราจะได้ทะเลทรายเข้ามาแทนที่ ทุกคนคงเคยเห็นภาพทะเลทรายกันมาแล้วว่ามันน่ากลัวขนาดไหน ...