หยวนดิจิทัล คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง?

คำถาม ... หยวนดิจิทัล คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง?

เฉลย ...
หยวนดิจิทัล คือ Cryptocurrency ชนิด Stable coin ที่ผูกค่ากับสกุลเงินหยวนของประเทศจีนแบบ 1:1 5 โดยถูกออกแบบและกำกับการใช้งานโดยธนาคารกลางของประเทศจีน

หยวนดิจิทัลเป็น Central Bank Digital Currency (CDBC) หรือ สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางตัวแรกที่ถูกนำมาใช้กับร้านค้าและประชาชนโดยทั่วไป โดยพัฒนาขึ้นมาบนเทคโนโลยีบล็อคเชน (Blockchain) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่แข็งแกร่ง ได้เริ่มทดสอบการใช้งานจริงตั้งแต่เดือนเมษายน 2021 ต่อด้วยการทดสอบการใช้งานในมหกรรมโอลิมปิกฤดูหนาว ซึ่งจัดขึ้นในประเทศจีนในช่วงต้นปี 2022 ที่ผ่านมา ปัจจุบันรัฐบาลจีนกำลังขยายการใช้งานกว้างขึ้นมาก และคาดว่าจะถูกนำมาใช้แทนเงินกระดาษอย่างเต็มรูปแบบในไม่ช้านี้

Wallet App ของหยวนดิจิทัล

ข้อดีของการใช้หยวนดิจิทัลนั้นมีหลายอย่าง เช่น ทำให้การชำระค่าสินค้าและบริการนั้นรวดเร็วและปลอดภัย ลดการพิมพ์เงินกระดาษซึ่งต้องตัดต้นไม้จำนวนมาก (และมีต้นทุนการพิมพ์สูง) ป้องกันแบงค์ปลอมได้อย่างสิ้นเชิง รวมถึงป้องกันการฟอกเงินได้เป็นอย่างดี เนื่องจากการเคลื่อนไหวของเงินทั้งหมด สามารถตรวจสอบได้เพียงปลายนิ้ว และไม่มีใครสามารถเข้าไปลบประวัติการทำธุรกรรมได้

ข้อเสียของการใช้เงินดิจิทัลแบบนี้ก็มีเช่นกัน เช่น ความเคลื่อนไหวทางการเงินของเราจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป รวมถึงมือถือต้องต่ออินเตอร์เน็ตถึงจะชำระเงินได้ และเราต้องวางระบบความปลอดภัยของโทรศัพท์มือถือให้ดี ไม่ให้ใครเข้าถึงบัญชีเก็บเงินส่วนนี้ได้

การมาของ CBDC จะทำให้การฟอกเงินทำได้ยาก
เพราะธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดจะถูกตรวจสอบได้อย่างง่ายดาย

ถ้าใครนึกภาพไม่ออกว่ามันใช้งานอย่างไร ให้นึกภาพแอปเป๋าตังค์ได้เลยเพราะใช้เหมือนกันทุกอย่าง

หลายท่านอาจจะตั้งคำถามว่า  ประเทศไทยของเรามีแผนจะสร้าง บาทดิจิทัล ที่ใช้งานง่ายแบบนี้ขึ้นมาหรือไม่ คำตอบคือมี โดยธนาคารแห่งประเทศไทยได้ทำการพัฒนาบาทดิจิทัลขึ้นมาหลายปีแล้วในโครงการที่ชื่อว่า โครงการอินทนนท์ และได้ทดสอบการใช้งานในระบบปิด กล่าวคือ ใช้โอนเงินระหว่างธนาคารเท่านั้น ปรากฏว่าได้ผลดี และจะเริ่มทดสอบการใช้ทั่วไปแบบในวงจำกัดในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 นี้ คาดว่าอีกไม่นานเราจะได้ใช้เงินดิจิทัลแห่งชาติกันอย่างเต็มรูปแบบ

หมายเหตุ เงินหยวนดิจิทัลมีชื่อเรียกหลายชื่อเช่น Digital Yuan, Digital Renminbi, e-CNY, Digital RMB และ DCEP เป็นต้น แต่ทั่วโลกนิยมใช้คำว่า Digital Yuan มากที่สุด