บัตรเดบิตกับบัตรเครดิต เหมือนหรือต่างกันอย่างไร?

คำถาม ... บัตรเดบิตกับบัตรเครดิต เหมือนหรือต่างกันอย่างไร?

เฉลย ...

ในปัจจุบันการใช้งานบัตรเดบิตและบัตรเครดิตดูเหมือนจะเรื่องธรรมดามาก ๆ ในชีวิตประจำวันของใครหลายคนไปแล้ว เนื่องจากความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ไม่ต้องพกเงินติดตัวมาก ๆ แถมยังได้คะแนนสะสมไว้แลกของกินของใช้แจ่ม ๆ รวมถึงของกำนัลเก๋ ๆ อีกมากมาย

แต่หลายคนก็ยังไม่เข้าใจนักว่าบัตรแบบไหนเรียกว่าบัตรเครดิตหรือบัตรแบบไหนที่เรียกว่าบัตรเดบิต ได้เจ้าบัตรทั้งสองนี้มันเหมือนหรือต่างกันอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบมาให้ดูกัน...

บัตรเดบิตกับบัตรเครดิต ต่างกันอย่างไร

1. บัตรเครดิต (Credit Card)

บัตรเครดิต คือบัตรที่ออกโดยธนาคารพานิชย์ หรือสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารที่ได้รับอนุญาติ หรือเป็นบัตรที่เกิดจากความร่วมมือของสถาบันการเงินกับสถานประกอบการต่าง ๆ  เช่นสายการบิน ห้างสรรพสินค้า บริษัทรถยนต์ และบริษัทห้างร้านอื่น ๆ โดยธนาคารหรือสถาบันการเงินจะกำหนดวงเงินการใช้จ่ายมาให้ตามข้อมูลมูลทางการเงินที่เรายื่นประกอบในวันสมัคร ซึ่งเรียกว่า วงเงินเครดิต หรือวงเงินที่ธนาคารจะจ่ายให้เราก่อนล่วงหน้าเมื่อเราชำระค่าสินค้าและบริการด้วยบัตรเครดิตนั้น ๆ ซึ่งเราสามารถใช้ได้ไม่เกินวงเงินที่ธนาคารให้มา หรือวงเงินคงเหลือในแต่ละรอบบัญชี

ในส่วนของการชำระคืนนั้น เราสามารถเลือกได้ว่าจะชำระเต็มจำนวน ซึ่งจะไม่เสียดอกเบี้ย หรือจะชำระบางส่วน ไม่น้อยกว่า 10% ของยอดค้างชำระ (ตามข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทย) ในกรณีที่เราเลือกชำระเพียงบางส่วน ยอดที่ยังค้างชำระอยู่ เราจะต้องเสียดอกเบี้ยในอัตรา 18% ต่อปี (ตามข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทย)

นอกจากจะใช้ชำระค่าสินค้าและบริการแล้ว เรายังสามารถกดเงินสดล่วงหน้าจากบัตรเครดิตได้ด้วย โดยที่ยอดเงินที่กดออกมาเมื่อรวมกับยอดที่ใช้จ่ายไปแล้วหรือยอดค้างชำระ จะต้องไม่เกินวงเงินที่ธนาคารอนุมัติมาให้ ตัวอย่างเช่น บัตรมีวงเงิน 50,000 บาท มียอดค้างชำระ 10,000 บาท และมียอดใช้จ่ายที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระอีก 20,000 บาท แสดงว่าจะสามารถกดเงินสดได้อีกไม่เกิน 20,000 บาท เป็นต้น

ในส่วนของการสมัครถือบัตรนั้น กฏหมายกำหนดให้ผู้ยื่นขอมีบัตรเครดิตจะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน หรือมีเงินฝากเพื่อค้ำประกันวงเงินเครดิตที่ได้รับ และจะได้วงเงินเริ่มต้นไม่เกิน 3 เท่าของรายได้ต่อเดือน  หรือไม่เกินวงเงินที่ใช้ค้ำประกัน ส่วนจะได้รับการอนุมัติหรือไม่ วงเงินมากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้น อยู่กับการประเมินคุณสมบัติและความเสี่ยงของธนาคารเจ้าของบัตร รวมถึงประวัติข้อมูลทางการเงิน หรือข้อมูลเครดิตของเราที่ปรากฎบนฐานข้อมูลของบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือ เครดิตบูโร

เครือข่ายบัตรเครดิตที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เช่น Visa, MasterCard, American Express และ JCB เป็นต้น โดยที่เราสามารถนำบัตรเครดิตไปใช้กับร้านค้าได้ทั่วโลกที่ยอมรับการชำระด้วยบัตรนั้น ๆ


ตัวอย่างบัตรเครดิต


2. บัตรเดบิต (Debit Card)

บัตรเดบิต หมายถึงบัตรที่ออกโดยธนาคาร หรือสถาบันการเงิน หรือบริษัทที่ให้บริการด้านการเงินที่ได้รับอนุญาต โดยที่บัตรเดบิตจะถูกพ่วงเข้ากับบัญชีเงินฝากที่เรามีกับไว้กับธนาคาร ซึ่งอาจจะเป็นบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีกระแสรายวันก็ได้ เมื่อเรานำบัตรไปรูดซื้อสินค้าและบริการ จำนวนเงินดังกล่าวก็จะถูกหักออกจากบัญชีเงินฝากของเราทันที ซึ่งเราจะต้องมีเงินในบัญชีเพียงพอที่จะหักยอดใช้จ่ายดังกล่าว

นอกจากนี้ยังมีบัตรเดบิตอีกประเภทหนึ่งซึ่งออกโดยบริษัทที่ให้บริการด้านการชำระเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร ซึ่งก่อนใช้งานบัตรประเภทนี้ เราจะต้องเติมเงินเข้าไปในบัญชีบัตรเสียก่อน (เนื่องจากไม่ได้ผูกกับบัญชีธนาคารนั่นเอง) จึงจะสามารถชำระค่าสินค้าและบริการได้

บัตรเดบิตในปัจจุบันมักจะเข้าร่วมกับบริษัทรับชำระเงินระดับโลก เช่น Visa, MasterCard และ UnionPay เป็นต้น ซึ่งจะทำให้เราสามารถนำบัตรเดบิตไปใช้ชำระสินค้าและบริการได้ทั่วโลก


ตัวอย่างบัตรเดบิต

กล่าวโดยสรุปได้ว่า บัตรเครดิตคือบัตรที่เราสามารถชำระค่าสินค้าและบริการได้โดยใช้วงเงินเครดิตที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินกำหนดมาให้ ส่วนบัตรเดบิตคือบัตรที่สามารถชำระค่าสินค้าและบริการตลอดจนกดเงินสด โดยยอดการชำระนั้นจะหักจากเงินในบัญชีธนาคารของเราเองนั่นเอง



อย่าเพิ่งซื้อบ้าน ถ้ายังไม่รู้สิ่งนี้ !!!

ซื้อบ้าน ต้องดูอะไรบ้าง?

คำถาม ... จะซื้อบ้าน ต้องดูอะไรบ้าง? เฉลย ... บ้านคือหนึ่งในปัจจัย 4 ซึ่งมนุษย์ทุกคนต้องการ และในการซื้อบ้านนั้นเป็นการตัดสินใจทางการเงินค...

ความรู้รอบตัว...แนะนำ